ข่าวสารกรมการศาสนา

img
กลับ

กรมการศาสนา โดยกองศาสนพิธี จัดกิจกรรมสวดโอ้เอ้วิหารราย ณ ศาลาราย รอบพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ช่วงกลางพรรษา)

วันอังคารที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๗ กรมการศาสนา โดยกองศาสนพิธี จัดกิจกรรมสวดโอ้เอ้วิหารราย (ช่วงออกพรรษา) ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๗ ซึ่งในอังคารที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๗ ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ มีโรงเรียนเข้าร่วมจำนวน ๑๒ โรงเรียน ณ ศาลาราย รอบพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้แก่ ๑. ศาลาที่ ๑ โรงเรียนอู่ทอง ๒. ศาลาที่ ๒ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ยานนาเวศ ๓. ศาลาที่ ๓ โรงเรียนท่ามะขามวิทยา ๔. ศาลาที่ ๔ โรงเรียนสตรีวิทยา ๕. ศาลาที่ ๕ โรงเรียนวัดบางโพโอมาวาส ๖. ศาลาที่ ๖ โรงเรียนธนสิทธิ์อนุสรณ์ ๗. ศาลาที่ ๗ โรงเรียนมีนบุรี ๘. ศาลาที่ ๘ สถาบันวิจัย พัฒนาและสาธิตการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ๙. ศาลาที่ ๙ โรงเรียนวัดอินทาราม ๑๐. ศาลาที่ ๑๐ โรงเรียนวัดชนะสงคราม ๑๑. ศาลาที่ ๑๑ โรงเรียนวัดบ่อตะกั่ว (พ่วงประชานุกูล) ๑๒. ศาลาที่ ๑๒ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ทั้งนี้นักสวดพระมหาชาติคำหลวง เจ้าหน้าที่กองศาสนพิธี กรมการศาสนา ได้สวดมหาชาติคำหลวง ณ ภายในอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นสืบสานพระศาสนาและรักษามรดกวัฒนธรรมของชาติที่มีหนึ่งเดียวในโลก พระมหาชาติคำหลวง เป็นวรรณกรรมเกี่ยวกับอดีตพระชาติของพระพุทธเจ้าในชาติที่ ๑๐ คือพระมหาเวสสันดรชาดก เล่าถึงเมื่อครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร ได้บำเพ็ญทานบารมีอันเป็นยอดหลายประการมีการแจกทานเป็นนิจ ส่วนการสวดไอ้เอ้วิหารราย คือ การสวดทำนองกาพย์กลอนของเด็กนักเรียน ซึ่งใช้สวดในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ๓ วาระ ประกอบด้วยช่วงต้นพรรษา ระหว่างขึ้น ๑๔ ค่ำ - แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ช่วงกลางพรรษา ระหว่างแรม ๑๓ - ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ และขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ช่วงออกพรรษา ระหว่างขึ้น ๑๔ - แรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ ในปัจจุบัน การสวดโอ้เอ้วิหารรายนั้นจะสวดตามศาสารายรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง โดยแต่เดิมนั้น การโอ้เอ้วิหารราย เป็นทํานองการสวดที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ควบคู่กับการสวดมหาชาติคําหลวง ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ นักสวด ที่ได้รับการคัดเลือกให้สวดในวิหารใหญ่ ต้องเป็นผู้ที่สวดดี สวดคล่องแคล้ว แม่นยําในอักขระเพราะต้องสวดต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้าอยู่หัว จึงเรียกการสวดเหล่านี้ว่า “สวดมหาชาติคําหลวง” สําหรับนักสวดที่ไม่ได้รับการคัดเลือก และสวดอยู่ตามวิหารรายรอบพระอุโบสถวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ จะเรียกว่า “สวดโอ้เอ้วิหารราย ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ การสวดมหาชาติคําหลวง และโอ้เอ้วิหารรายยังคงถือปฏิบัติสืบทอดกันมา ครั้งในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงเรียนสอนหนังสือไทยขึ้นที่โรงทานข้างประตูต้นสน เมื่อถึงเทศกาลเข้าพรรษา โปรดเกล้าฯ ให้จัดนักเรียนมาสวดที่ศาลารายด้านเหนือของ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และได้ทรงให้เปลี่ยนการสวด “มหาชาติคําหลวง” เป็นการสวด “เทียบมูลบท” แทน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่าการสวดเทียบมูลบท ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ฟังมากนัก จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้นักเรียนโรงทานสวด “กาพย์พระไชยสุริยา” ของสุนทรภู่ ซึ่งเป็นตําราเรียนในสมัยนั้นมาใช้เป็นบทสวดโอ้เอ้วิหารราย และใช้มาถึงในยุคสมัยปัจจุบัน ประกอบด้วย กาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ฉบัง ๑๖ และกาพย์สุรางคนางค์ ๒๘